อลีสซง แรมเซส เบ็คเกอร์ ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 1992 ที่เมืองโนโว ฮัมเบอร์โก ประเทศบราซิล สูง 191 ซม. ตำแหน่งที่เล่น คือ ผู้รักษาประตู
เส้นทางสู่นักเตะของอลีสซง เติบโตมาในครอบครัว นายด่านปราการสุดท้าย ผู้รักษาประตู อย่างแท้จริง ไล่ตั้งแต่รุ่นปู่ทวด ซึ่งเป็นโกล์ให้กับสโมสรท้องถิ่น คุณแม่เล่นเป็นผู้รักษาประตูในกีฬาแฮนด์บอล ส่วนคุณพ่อ ถึงแม้จะไม่ได้เล่นฟุตบอลอาชีพจริงจัง แต่เวลาเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ก็มักจะไปยืนเฝ้าประตูให้กับทีมเสมอ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ อลีสซง และพี่ชาย มูเรียล เบ็คเกอร์ ซึ่งอายุมากกว่าประมาณห้าปี ชื่นชอบการเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู และสองพี่น้องคู่นี้ก็ได้เริ่มต้นเส้นทางนักเตะด้วยการเข้าสู่อคาเดมี่ของ อินเตอร์นาซิอองนาล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งแดนแซมบ้า
พี่น้องเบ็คเกอร์ ได้มาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสร โดย มูเรียล ได้มาเล่นก่อน ก่อนที่ อลีสซง จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา และนี่คือสิ่งที่ทำให้เขาทั้งคู่มีสถานะกลายเป็น คู่แข่ง ต้องแย่งชิงตำแหน่งมือหนึ่งลงเฝ้าประตูให้กับทีม
ด้วยอายุและประสบการณ์ที่มากกว่าทำให้ มูเรียล ยึดตำแหน่งมือหนึ่งเหนือ อลีสซง ในปี 2015 อลีสซง ก็ได้รับโอกาสมากขึ้นตามลำดับจนก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งของทีม และโชว์ฟอร์มโดดเด่นกลายเป็นเป้าหมายที่สโมสรดังในยุโรปให้ความสนใจ ในปี 2016 หมาป่าแห่งกรุงโรม โรม่า ก็ควักกระเป๋า 7.5 ล้านยูโร ดึงตัว อลีสซง มาลุยเวทีเซเรียอา อิตาลี
ในฤดูกาล 2016-2017 ที่ย้ายมายังโรม่า อลีสซงรับบทตัวสำรองของ วอยเซียก เซสนี่ จอมหนึบทีมชาติโปแลนด์ แต่ก็ได้ลงโชว์ฝีมือในเกมฟุตบอลถ้วยต่างๆ เป็นจำนวน 15 นัด
ฤดูกาล 2017-2018 เซสนี่ย้ายไปอยู่กับยูเวนตุส อลีสซงจึงก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งมือหนึ่งของโรม่าทันที พร้อมกับทำผลงานสุดเหนียวหนึบ จนได้รับเลือกให้เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของเซเรียอา
บรูโน่ คอนติ ตำนานแข้งโรม่า และทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์โลก 1982 ได้กล่าวว่า อลีสซงเป็นผู้รักษาประตูที่ฉลาดสุดๆ และสามารถคาดเดาการเคลื่อนที่ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างยอดเยี่ยม เขาอาจจะไม่จำเป็นต้องโชว์ลูกเซฟมหัศจรรย์อะไร เพราะการยืนตำแหน่งของเขานั้นดีมากๆ
เมื่อปี 2018 ด้วยฟอร์มการเล่นอันโดดเด่น ทำให้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เดินหน้าดึงตัว อลีสซง มาเฝ้าประตูในถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวสูงถึง 67 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดในโลก ณ เวลานั้น
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ หงส์แดง ทุ่มเงินก้อนโตสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู เนื่องจากฤดูกาลก่อนหน้านั้น พวกเขาอกหักพลาดแชมป์ยูฟ่า ชปล. จากความผิดพลาดของ ลอริส คาริอุส ส่วนตัวสำรองอย่าง ซิมง มิโญเลต์ ก็ยังไว้ใจไม่ได้เท่าที่ควร
และการมาของ อลีสซง ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพราะจอมหนึบเลือดแซมบ้ารายนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นหนึ่งในคีย์แมนที่ช่วยให้ หงส์แดง ผงาดแชมป์ยูฟ่า ชปล.ในฤดูกาล 2018-2019 พร้อมกับคว้ารางวัลเกียรติยศส่วนตัวมากมาย โดยเฉพาะรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของฟีฟ่า และรางวัล ยาชิน โทรฟี่ ปี 2019 จากนิตยสารฟรองซ์ ฟุตบอล ซึ่งอาจเทียบได้กับ บัลลงดอร์ ของผู้รักษาประตูยังไงยังงั้น
ในฤดูกาล 2019-2020 อลีสซงยังคงเป็นกำลังสำคัญในถิ่นแอนฟิลด์เช่นเดิมถึงแม้จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง และในที่สุด จอมหนึบเลือดแซมบ้าก็มีส่วนช่วยพาทีมได้ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบสามสิบปีของหงส์แดง
และล่าสุดในฤดูกาล 2020-2021 ถือเป็นฤดูกาลที่ไม่น่าจดจำของอลีสซง เมื่อหงส์แดงประสบปัญหากองหลังตัวหลักเจ็บระนาว ทั้งเฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจเอล มาติป และโจ โกเมซ ซึ่งส่งผลกระทบมาถึงฟอร์มของอลีสซง ที่เริ่มมีจังหวะผิดพลาดให้เห็นบ่อยขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า ทั้งหงส์แดงและอลีสซงจะกลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้งหรือไม่
ในปี 2015 อลีสซง เริ่มติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ ตั้งแต่สมัยที่ยังเล่นให้กับอินเตอร์นาซิอองนาล ในยุคของกุนซือคาร์ลอส ดุงก้า โดยได้ลงรับใช้ชาติครั้งแรกในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ซึ่งชนะ เวเนซูเอลา 3 ต่อ 1
อลีสซง มีชื่อติดธงเรื่อยมาต่อเนื่อง พร้อมกับก้าวขึ้นเป็นมือหนึ่งทีมชาติต่อจาก ฮูลิโอ เซซาร์ และมีชื่อติดเป็น 1 ใน 23 ขุนพลทีมแซมบ้าลุยฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย โดย อลีสซง ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัด ตั้งแต่รอบแรก ก่อนจะไปจอดป้ายที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อพ่ายต่อ เบลเยียม 1 ต่อ 2
ในปี 2019 อลีสซง ประสบความสำเร็จกับทีมชาติบราซิล ด้วยการผงาดคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2019 ซึ่งตลอดทั้งทัวร์นาเมนท์ นายด่านหงส์แดงรายนี้เสียประตูเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้นจากการลงสนาม 6 นัด
ผลงานของอาลีสซง
ทีมอินเตอร์นาซิอองนาล
: แชมป์ลีกบราซิล 2013, 2014, 2015, 2016
ทีมโรม่า
: ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมเซเรียอา 2017-2018
: ติดทีมยอดเยี่ยมเซเรียอา 2017-2018
ทีมหงส์แดง
: แชมป์พรีเมียร์ลีก 2019-2020
: แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018-2019
: แชมป์สโมสรโลก 2019
: ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของฟีฟ่า 2019
: ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของ IFFHS 2019
: ติดทีมยอดเยี่ยมฟีฟ่า ฟิฟโปร 2019, 2020
: ติดทีมยอดเยี่ยมยูฟ่า 2019
: ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018-2019
: รางวัลถุงมือทองคำพรีเมียร์ลีก (คลีนชีทมากที่สุด 21 นัด) 2018-2019
: รางวัลยาชิน โทรฟี่ 2019
ทีมชาติบราซิล
: แชมป์โคปา อเมริกา 2019
: ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมโคปา อเมริกา 2019
: ติดทีมยอดเยี่ยมยอดเยี่ยมโคปา อเมริกา 2019